เมืองไทยประกันชีวิต ปั้นโปรดักต์สุขภาพและโรคร้ายแรง ผูกเข้ากับ “เนิร์สซิ่งโฮม” รองรับสังคมสูงวัย เจาะลูกค้าอายุ 40-80 ปี เพื่อวางแผนการออมหลังเกษียณ-ดูแลสุขภาพไม่ให้เป็นภาระคนอื่น มีทางเลือกรับผลประโยชน์ได้แบบเงินก้อนและรายเดือน ค่าเบี้ยขั้นต่ำ 6-7 พันบาทต่อปี
วันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาเรามักจะพูดถึงการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร และมาในยุคหลัง ๆ จะพูดถึงเกี่ยวกับเรื่องของความคุ้มครองสุขภาพ และก็เริ่มมีการพูดถึงกันมากว่าคนไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย
ดังนั้นถ้าเรามองในมุม Outside-in ต่อเรื่องการออมหลังเกษียณ หรือการดูแลสุขภาพเพื่อไม่เป็นภาระให้กับคนอื่น จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่บริษัทอยากจะออกแบบประกันให้ครบลูปในการตอบโจทย์คนไทย ซึ่งสังคมผู้สูงวัยเป็นความท้าทายที่กำลังจะเกิดขึ้นในประเทศไทย จึงได้เปิดตัวกลยุทธ์ “SILVER Readiness by MTL” (S=Solution I=Integration L=Longevity V=Value Added E=Excellence R=Readiness) มุ่งเน้นการตอบโจทย์ที่หลากหลายรอบด้านเพื่อการดูแลกลุ่มผู้สูงอายุยุคใหม่ (Silver Age)
แพทย์หญิงนาฏ ฟองสมุทร ผู้เชี่ยวชาญการจัดการด้านผู้สูงอายุ กล่าวเสริมว่า สิ่งที่เราต้องเตรียมตัวให้เหมาะสมก่อนที่จะเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยยุคใหม่ (Silver Age) หรือเรียกว่า “วัยอิสระ” นั่นคือ 1.การเตรียมทุนในด้านสุขภาพ และต้องประคองสุขภาพตัวเอง พยายามหลีกเลี่ยงการป่วยเป็นโรค NCDs เพื่อทำให้ชีวิตยืนยาวได้อย่างมีคุณภาพชีวิต
2.การเตรียมทุนในกระเป๋า เพราะต่อให้มีสุขภาพดีแค่ไหน พอถึงวัยเกษียณหรือสูงอายุ หากทุนในกระเป๋าไม่มี โอกาสจะใช้ชีวิตอย่างที่ต้องการก็ลำบาก เพราะฉะนั้นการเก็บเงินหรือการออมในรูปแบบต่าง ๆ เป็นสิ่งสำคัญ โดยคนชนชั้นกลางต้องมีเงินประมาณ 7-10 ล้านบาทขึ้นไปตอนเกษียณถึงจะพอใช้ ถึงจะมีคุณภาพชีวิตที่ดี และถึงจะดูแลเรื่องสุขภาพได้อย่างเหมาะสม
และ 3.การเตรียมทุนด้านจิตวิญญาณหรือสังคม เพื่อให้เรามีเพื่อน มีสังคม และมีกิจกรรมต่าง ๆ ที่ทำให้รู้สึกว่าหลังเกษียณแล้วเรายังมีคุณค่า มีความภาคภูมิใจในตัวเองอยู่
“คนช่วงวัย 40-60 ปีสำหรับประเทศไทยคือ population tsunami ซึ่งสึนามิก้อนใหญ่ของประเทศ ที่จะเข้าสู่วัย 60 ปีเร็ว ๆ นี้ และจะเข้าต่อเนื่องมาอีกเป็นเวลา 20 ปี ซึ่งเราจะมีคนสูงอายุหรือว่าวัยอิสระเติมเข้ามาในสังคม ปีละกว่า 1 ล้านคน ฉะนั้นการเตรียมพร้อมที่เหมาะสมเพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ”
นายปาณัท สุทธินนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต กล่าวต่อว่า เราได้พัฒนาโปรดักต์ใหม่พิเศษเฉพาะลูกค้ากลุ่มนี้ ภายใต้โครงการสมาร์ท ซิลเวอร์ และโครงการสมาร์ท ซิลเวอร์ พลัส เปิดตัวอย่างเป็นทางการวันนี้เป็นวันแรก ซึ่งเป็นสัญญาเพิ่มเติมโรคร้ายแรง โดยเราเลือกความคุ้มครองมาทั้งหมด 3 อย่างคือ
1.โรคสมองเสื่อมชนิดอัลไซเมอร์และโรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน 2.เจ็บป่วยหรือบาดเจ็บจนไม่สามารถปฏิบัติกิจวัตรประจำวันได้ด้วยตนเองอย่างถาวรตั้งแต่ 3 ใน 6 อย่างต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 180 วัน ประกอบด้วย 1.การเคลื่อนย้าย 2.การเดินหรือเคลื่อนที่ 3.การแต่งกาย 4.การอาบน้ำชำระร่างกาย 5.การรับประทานอาหาร และ 6.การขับถ่าย อีกทั้งยังให้ความคุ้มครองกรณี 3.กระดูกแตกหัก
ซึ่งความคุ้มครองทั้ง 3 อย่างเป็นกลุ่มที่ผู้สูงวัยยุคใหม่พบได้บ่อย และถ้าเป็นแล้วมีโอกาสมีค่าใช้จ่ายที่สูงตามมา เพราะต้องเข้าไปรักษาตัวใน Home care หรือ Nursing care ทั้งนี้เราเปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถเลือกรับผลประโยชน์เป็นเงินก้อนหรือรายเดือนได้
โดยเฟสแรกเปิดขายให้กลุ่มลูกค้าช่วงอายุ 40-80 ปี พร้อมให้ความคุ้มครองดูแลยาวถึงอายุ 81 ปี ยกตัวอย่าง กรณีอายุ 40 ปี เลือกรับเงินก้อน 1 ล้านบาท/เลือกรับรายเดือนประมาณ 1.5 หมื่นบาทต่อเดือน กรณีเลือกความคุ้มครองทั้งสามอย่างข้างต้น จะจ่ายค่าเบี้ยประมาณ 6-7 พันบาทต่อปี
ซึ่งหลักการของแบบประกันตัวนี้จะคุ้มครองกรณีต้องเข้าไปอยู่ที่ Nursing home ซึ่งแบบประกันสุขภาพหรือโรคร้ายแรงในปัจจุบันยังไม่ครอบคลุมไปถึงตรงส่วนนี้ แต่ลูกค้าที่ทำประกันจะต้องมีการตรวจสุขภาพก่อน โดยลูกค้าสามารถซื้อแนบกับสัญญาหลักได้ทุกแบบ
นายสาระกล่าวเพิ่มว่า ปัจจุบันทางบริษัทได้จับมือกับ Nursing Home ชั้นนำของประเทศ เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าคนสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น
– เดอะซีเนียร์ โรงพยาบาลกายภาพบำบัด
– เดอะซีเนียร์ รัชโยธิน
– เดอะซีเนียร์ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุและผู้มีภาวะพึ่งพิง
– ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุฮันโนะ-เวชพงศ์
– ศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพและดูแลผู้สูงอายุศิริอรุณเวลเนสเซ็นเตอร์
– ศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพและดูแลผู้สูงอายุศิริอรุณแคร์
– ศูนย์ส่งเสริมและฟื้นฟูผู้สูงวัย เดอะซีนิเซ่นส์
– โรงพยาบาลผู้สูงอายุเฌ้อสเซอรี่โฮม
– ศูนย์ส่งเสริมและฟื้นฟูผู้สูงวัย เฌ้อสเซอรี่โฮม พรีเมี่ยมซีเนียร์แคร์
– ศูนย์ส่งเสริมและฟื้นฟูผู้สูงวัย เฌ้อสเซอรี่โฮม ซีเนียร์แคร์ บางบอน
– เฮลท์ แอท โฮม แคร์เซ็นเตอร์ และ
– ViMUT Wellness บางนา-วงแหวน ศูนย์ฟื้นฟูและดูแลสุขภาพสำหรับครอบครัวและผู้สูงอายุ
รวมทั้งยังเตรียมที่จะขยายความร่วมมือไปยัง Nursing Home Network ในพื้นที่ต่าง ๆ ให้ครอบคลุมมากขึ้นทั่วประเทศในปีหน้า
นายแพทย์เก่งพงศ์ ตั้งอรุณสันติ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลผู้สูงอายุเฌ้อสเซอรี่โฮม กล่าวว่า ปัจจุบันโครงสร้างของอัตราการให้บริการ Nursing Home มีประมาณ 3 ส่วนหลักคือ 1.ค่าห้อง เริ่มต้นประมาณ 800 บาท ไปจนถึงประมาณ 1,500-2,000 บาท ขึ้นอยู่กับสิ่งอำนวยความสะดวก 2.ค่าใช้จ่ายด้านการแพทย์ เช่น ค่ากายภาพบำบัด, วิทยาศาสตร์ฟื้นฟู โดยเฉลี่ยจะถูกกว่าโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำทั่วไปประมาณ 30-50%
ซึ่งขึ้นอยู่กับสเตตัสของโรคที่ผู้ป่วยมี เช่น หลังผ่าตัดสะโพกหรือเข่า หรือมีปัญหาด้านอัลไซเมอร์ ที่อาจจะต้องมีการจัดกิจกรรมพิเศษบางอย่างด้วย และ 3.ค่าสนับสนุนอื่น ๆ เช่น ค่านันทนาการต่าง ๆ หรือค่าดูแลทั่วไปอื่น ๆ อย่างค่าอาหาร ค่ารูมเซอร์วิสต่าง ๆ ที่อาจจะมีเพิ่มเติมขึ้นมาได้ ซึ่งทุกพันธมิตรในโครงการนี้น่าจะจัดแพ็กเกจให้กับทางเมืองไทยประกันชีวิต
นอกจากนี้การใช้บริการขึ้นอยู่กับระยะเวลาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย หากเป็นกรณีที่เข้ามาฟื้นฟูในระยะเวลาสั้น 2 สัปดาห์ ค่าใช้จ่ายหลักพัน แต่ถ้าอยู่เป็นเดือนอาจจะมีค่าใช้จ่าย 2-3 หมื่นบาท
นายสาระกล่าวเพิ่มเติมว่า โดยเพื่อให้ลูกค้าในกลุ่ม Silver Age ได้สัมผัสกับประสบการณ์แห่งความสุขที่ครบวงจรมากขึ้น และได้เข้าถึงบริการและนวัตกรรมใหม่ ๆ อย่างไม่หยุดยั้ง ทางบริษัทยังเดินหน้าเชื่อมต่อกับเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจในด้านต่าง ๆ (Ecosystem Partners) เพื่อขยายการให้บริการที่มากยิ่งขึ้น
รวมถึงการผนึกกำลังกับบริษัท ฟูเชียเวนเจอร์แคปิทัล จำกัด (Fuchsia VC) ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มของเมืองไทยกรุ๊ปโฮลดิ้ง ที่จะเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งในส่วนของการช่วยแสวงหาและลงทุนในสตาร์ตอัพ ที่มีเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ และการบริการสำหรับผู้สูงอายุ และมีขอบข่ายการลงทุนทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยการลงทุนมุ่งเน้น ด้าน Healthtech Biotech และ Livingtech ที่สามารถช่วยให้ผู้สูงอายุ มีสุขภาพและคุณภาพชีวิต ยั่งยืนมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ทางเมืองไทยสไมล์คลับยังได้มีการจัดแคมเปญพิเศษสำหรับสมาชิกเมืองไทย สไมล์คลับ กลุ่ม Silver Age เพียงใช้คะแนนสะสม Smile Point แลกรับสิทธิในการเข้าร่วมโครงการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น แคมเปญ Smile Healthy Family แลกรับโปรแกรมตรวจสุขภาพที่เหมาะกับคุณ แคมเปญ Smile Stroke Screening แลกรับโปรแกรมตรวจสุขภาพเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ แคมเปญ Good Living with Chivit-D by SCG แลกรับ Code ส่วนลดเมื่อซื้อสินค้าเพื่อสุขภาพสำหรับคนในครอบครัวผ่านช่องทางออนไลน์ และแลกคะแนนสะสมรับอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันสำหรับผู้สูงอายุ หรือแลกรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Royal Life จาก BDMS Wellness Clinic โดยสมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับสามารถแลกคะแนนสะสม Smile Point ผ่านแอปพลิเคชั่น MTL Click
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อตัวแทนเมืองไทยประกันชีวิตทั่วประเทศ หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.muangthai.co.th สอบถามข้อมูล โทร. 1766 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง